QUERIES¶
จะเป็น Function ที่ใช้ในการดึงข้อมูลเพียงอย่างเดียว ประกอบด้วย
BillingAccountProfile¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Billing Account (ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณปริมาณการใช้บริการและค่าใช้จ่านย) แต่ละ ID รายละเอียดดังนี้
BillingAccountProfile ( billingaccountid ):
Arguments
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingAccountProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingAccountProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
name
: String คือ ชื่อของ Billing Account
mode
: String คือ โหมดของ Billing Account
allow_apicall
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน API Call (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_connection
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Device Online (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_datasource
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Datasource (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_message
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Real Time Message (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_shadowops
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Shadow Read/Write (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_store
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Time Series Data Store (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_trigger
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Trigger & Action (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
BillingAccountProjectInfo¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลรายการ Project ที่สังกัดอยู่ภายใต้ Billing Account ID นั้น ๆ รายละเอียดดังนี้
BillingAccountProjectInfo ( billingaccountid ):
Arguments
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [ProjectID]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type ProjectID ประกอบด้วย
projectid
: String คือ รหัสของ Project
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
BillingAccountResourceUsageProfile¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลการจำกัดจำนวนการใช้งานและปริมาณการใช้งาน ณ ปัจจุบันของแต่และ Billing Account ID นั้น ๆ รายละเอียดดังนี้
BillingAccountResourceUsageProfile ( billingaccountid ):
Arguments
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingAccountResourceUsageProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingAccountResourceUsageProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
max_device_per_billing
: Int คือ จำนวน Device สูงสุดที่สามารถสร้างได้ในแต่ละ Billing Account
max_member_per_project
: Int คือ จำนวนสมาชิกสูงสุดที่สามารถ Invite ได้ในแต่ละ Project
max_project_per_billing
: Int คือ จำนวน Project สูงสุดที่สามารถสร้างได้ในแต่ละ Billing Account
use_device
: Int คือ จำนวน Device ที่สร้างไปแล้วในแต่ละ Billing Account
use_project
: Int คือ จำนวน Project ที่สร้างไปแล้วในแต่ละ Billing Account
detail
: JSON คือ รายละเอียดการใช้งานแยกตาม Project
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
BillingAccountSubscriptionProfile¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Package Subscription ปัจจุบันของแต่และ Billing Account ID นั้น ๆ รายละเอียดดังนี้
BillingAccountSubscriptionProfile ( billingaccountid ):
Arguments
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingAccountSubscriptionProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingAccountSubscriptionProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
subscriptionname
: String คือ ชื่อของ Subscription
billtype
: String คือ ประเภทของ Billing (PREPAID
หรือPOSTPAID
)
status
: String คือ สถานะการเปิดใช้งาน (ENABLED
หรือDISABLED
)
packageid
: String คือ String คือ รหัสของ Package ใช้งาน
packagename
: String คือ ชื่อของ Package ใช้งาน
total_cycle
: Int คือ จำนวนรอบการใช้งานได้ทั้งหมด
current_cycle
: Int คือ จำนวนรอบที่ใช้งานไปแล้ว ณ ปัจจุบัน
subscription_start_at
: String คือ วันเวลาทรี่เริ่มต้นใช้งาน Subscription
current_cycle_start_at
: String คือ วันเวลาที่เริ่มรอบการใช้ปัจจุบัน
current_cycle_end_at
: String คือ วันเวลาที่สิ้นสุดรอบการใช้ปัจจุบัน
max_apicall
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน API Call ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_connection
: Float คือ จำนวนเวลาสะสมสูงสุดที่ Device Online ได้ ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น วินาที)
max_datasource
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Datasource ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Byte)
max_message
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Real Time Message ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Message)
max_shadowops
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Shadow Read/Write ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_store
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Time Series Data Store ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Point-Day)
max_trigger
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Trigger & Action ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_device_per_billing
: Int คือ จำนวน Device สูงสุดที่สามารถสร้างได้ในแต่ละ Billing Account
max_member_per_project
: Int คือ จำนวนสมาชิกสูงสุดที่สามารถ Invite ได้ในแต่ละ Project
max_project_per_billing
: Int คือ จำนวน Project สูงสุดที่สามารถสร้างได้ในแต่ละ Billing Account
note
: String คือ หมายเหตุ
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
BillingLog¶
สำหรับเข้าถึงรายการข้อมูล Log ต่าง ๆ จากระบบในแต่ละ Billing Account ID นั้น ๆ รายละเอียดดังนี้
BillingLog ( billingaccountid, begintime, endtime, filter, limit, offset, direction ):
Arguments
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account (ต้องระบุ)
begintime
: String คือ วันที่เริ่มต้นของการเกิดข้อมูล (ต้องระบุ)
endtime
: String คือ วันที่สิ้นสุดของการเกิดข้อมูล (ต้องระบุ)
filter
: BillingLogFilterKey คือ Object Type ของตัวกรองที่ใช้ระบุเพิ่มเติมในการค้นหา ประกอบด้วย
event
: [String] คือ ชื่อเหตุการณ์ที่ทำให้เกิด Log ระบุได้หลายชื่อ
level
: [LogLevel] คือ ระดับการแจ้ง Log ระบุได้หลายระดับ
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่เกิด Log
limit
: Int คือ จำกัดจำนวนข้อมูลที่ดึงออกมา
offset
: Int คือ ลำดับรายการของข้อมูลที่เริ่มดึงข้อมูล
direction
: SortDirection คือ การเรียงลำดับข้อมูล (ASC
น้อยไปมาก,DESC
มากไปน้อย)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [BillingLog]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type BillingLog ประกอบด้วย
time
: Timestamp คือ วันเวลาที่เกิด Log
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
type
: String คือ ประเภทของ Log
level
: String คือ ระดับการแจ้ง Log
event
: String คือ ชื่อเหตุการณ์ที่ทำให้เกิด Log
projects
: [String] คือ Array รหัสของ Project
data
: JSON คือ รายละเอียดข้อมูลของ Log
annotation
: String คือ ข้อความอธิบาย Log
note
: String คือ หมายเหตุ
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
BillingMetricUsageProfile¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน Service ต่าง ๆ ในรอบบิลปัจจุบันของแต่และ Billing Account ID นั้น ๆ รายละเอียดดังนี้
BillingMetricUsageProfile ( billingaccountid ):
Arguments
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingMetricUsageProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingMetricUsageProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
name
: String คือ ชื่อของ Billing Account
mode
: String คือ โหมดของ Billing Account
max_apicall
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน API Call ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_connection
: Float คือ จำนวนเวลาสะสมสูงสุดที่ Device Online ได้ ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น วินาที)
max_datasource
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Datasource ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Byte)
max_message
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Real Time Message ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Message)
max_shadowops
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Shadow Read/Write ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_store
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Time Series Data Store ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Point-Day)
max_trigger
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Trigger & Action ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
use_apicall
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน API Call ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
use_connection
: Float คือ จำนวนเวลาที่ Device Online ไปแล้ว ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น วินาที)
use_datasource
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Datasource ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Byte)
use_message
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Real Time Message ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Message)
use_shadowops
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Shadow Read/Write ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
use_store
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Time Series Data Store ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Point-Day)
use_trigger
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Trigger & Action ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
usage_begin_at
: String คือ วันเวลาที่รอบบิลเริ่มนับการใช้งาน
usage_update_at
: String คือ วันเวลาที่มีการอัพเดทข้อมูลล่าสุด
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
Device¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Device แต่ละตัวด้วย ID รายละเอียดดังนี้
device ( deviceid ):
Arguments
deviceid
: String คือ รหัสของ Device (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Device
ตอบกลับเป็น Object Type Device ประกอบด้วย
alias
: String คือ ชื่อของ Device
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Device
description
: String คือ คำอธิบาย Device
deviceid
: String คือ รหัสของ Device
devicetoken
: [String] คือ รายการ Token ทั้งหมดของ Device
devicesecret
: String คือ รหัสลับของ Device
groupid
: String คือ รหัสของ Group ที่ Device อยู่ภายใต้
groupname
: String คือ ชื่อของ Group ที่ Device อยู่ภายใต้
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Device อยู่ภายใต้
status
: Int คือ สถานะการเชื่อมต่อ Platform ของ Device (0
offline,1
online)
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Device แบบหลายค่า
tags
: JSON คือ แท็กของ Device ในรูปแบบ Key Value
enabled
: Boolean คือ สถานะการเปิดใช้งาน Device (true
เปิดการใช้งาน [default],false
ปิดการใช้งาน)
banned
: Boolean คือ สถานะถูกระงับใช้งานจากระบบ (true
ถูกรระงับใช้งาน,false
ไม่ถูกรระงับใช้งาน [default])
credential
: Credential คือ ข้อมูลสำหรับยืนยันตัวตน Object Type credential ประกอบด้วย
secret
: String คือ รหัสลับของ Device
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
DeviceList¶
สำหรับเข้าถึงรายการข้อมูล Device ตามตัวกรองประเภทต่างๆ รายละเอียดดังนี้
deviceList ( fliter, orderBy, direction, limit, offset ):
Arguments
fliter
: DeviceFilterKey คือ Object Type ของตัวกรองที่ใช้ระบุในการค้นหา ประกอบด้วย
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Device อยู่ภายใต้ (ต้องระบุ)
groupid
: String คือ รหัสของ Group ที่ Device อยู่ภายใต้
alias
: String คือ ชื่อของ Device
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Device แบบหลายค่า
tags
: JSON คือ แท็กของ Device ในรูปแบบ Key Value
status
: Boolean สถานะการเชื่อมต่อ Platform ของ Device (true
online,false
offline)
orderBy
: [DeviceSortKey] คือ ตัวเลือกของฟิลด์ที่ระบุให้เป็นตัวเรียงลำดับข้อมูล ประกอบด้วย
createdtime
เรียงตามวันที่เวลาที่สร้าง Device
alias
(เรียงตามชื่อของ Device)
deviceid
(เรียงตามรหัสของ Device)
status
(เรียงตามสถานะการเชื่อมต่อ Platformของ Device)
direction
: OrderDirection คือ ตัวเลือกของลักษณะการเรียงลำดับ ประกอบด้วย
ASC
(เรียงลำดับจากน้อยไปมาก)
DESC
(เรียงลำดับจากมากไปน้อย)
limit
: Int คือ จำกัดจำนวนข้อมูลที่จะดึงออกมา
offset
: Int คือ ลำดับรายการของข้อมูลที่เริ่มดึงข้อมูล
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [Device]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type Device ประกอบด้วย
alias
: String คือ ชื่อของ Device
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Device
description
: String คือ คำอธิบาย Device
deviceid
: String คือ รหัสของ Device
devicesecret
: String คือ รหัสลับของ Device
groupid
: String คือ รหัสของ Group ที่ Device อยู่ภายใต้
groupname
: String คือ ชื่อของ Group ที่ Device อยู่ภายใต้
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Device อยู่ภายใต้
status
: Int คือ สถานะการเชื่อมต่อ Platform ของ Device (0
offline,1
online)
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Device แบบหลายค่า
tags
: JSON คือ แท็กของ Device ในรูปแบบ Key Value
enabled
: Boolean คือ สถานะการเปิดใช้งาน Device (true
เปิดการใช้งาน [default],false
ปิดการใช้งาน)
banned
: Boolean คือ สถานะถูกระงับใช้งานจากระบบ (true
ถูกรระงับใช้งาน,false
ไม่ถูกรระงับใช้งาน [default])
credential
: Credential คือ ข้อมูลสำหรับยืนยันตัวตน Object Type credential ประกอบด้วย
secret
: String คือ รหัสลับของ Device
ตัวอย่างการเข้าถึงรายการข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
DeviceToken¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Token ของ Device รายละเอียดดังนี้
deviceToken ( deviceid ):
Arguments
deviceid
: String คือ รหัสของ Device (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : DeviceToken
ตอบกลับเป็น Object Type DeviceToken ประกอบด้วย
deviceid
: String คือ รหัสของ Device
tokencode
: String คือ รหัสของ Token
iat
: String คือ วันเวลาที่ออก Token (issued at)
nbf
: String คือ วันเวลาที่ Token จะเริ่มใช้งานได้ (not before)
exp
: String คือ วันเวลาหมดอายุของ Token (expiration time)
expireIn
: String คือ อายุของ Token
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
Feed¶
สำหรับเข้าถึงฟิลด์ข้อมูลของ Device ที่มีการตั้งค่าให้เก็บข้อมูลลง Time Series Data Store (เก็บข้อมูลย้อนหลัง) รายละเอียดดังนี้
feed ( feedid ):
Arguments
feedid
: String คือ รหัสของ Feed ซึ่งใช้ค่าเดียวกับdeviceid
(ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Feed
ตอบกลับเป็น Object Type Feed ประกอบด้วย
feedid
: String คือ รหัสของ Feed
attributes
: JSON คือ รายการฟิลด์ข้อมูล
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
FeedData¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลแต่ละฟิลด์ใน Time Series Data Store ของ Device รายละเอียดดังนี้
feedData ( feedid, attributes, starttime, endtime, aggregator, sampling, pointlimit, format ):
Arguments
feedid
: String คือ รหัสของ Feed ซึ่งใช้ค่าเดียวกับdeviceid
(ต้องระบุค่า)
attributes
: [String] คือ ชื่่อฟิลด์ที่ต้องการข้อมูล (ถ้าไม่ระบุจะเป็นการดึงข้อมูลทุกฟิลด์)
starttime
: Timestamp คือ ช่วงเวลาเริ่มต้นที่ต้องการข้อมูล
endtime
: Timestamp คือ ช่วงเวลาสิ้นสุดที่ต้องการข้อมูล
aggregator
: String คือ การตั้งค่าการรวมหรือประมวลผลข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ก่อนส่งจุดข้อมูลกลับมา
sampling
: String คือ เงิ่อนไขการดึงตัวอย่างชุดข้อมูล
pointlimit
: Int คือ จำกัดจำนวนจุดข้อมูล
format
: DataFormat คือ รูปแบบข้อมูลที่ส่งกลับ (JSON
ค่า Default,TABLE
,CSV
)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : FeedData
ตอบกลับเป็น Object Type FeedData ประกอบด้วย
feedid
: String คือ รหัสของ Feed
data
: JSON คือ ข้อมูลในแต่ละฟิลด์ตามรูปแบบที่่เลือกไป
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
Group¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Group แต่ละ Group ด้วย ID รายละเอียดดังนี้
group ( groupid ):
Arguments
groupid
: String คือ รหัสของ Group (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Group
ตอบกลับเป็น Object Type Group ประกอบด้วย
groupid
: String คือ รหัสของ Group
groupname
: String คือ ชื่อของ Group
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Group อยู่ภายใต้
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Group
description
: String คือ คำอธิบาย Group
devicecount
: Int คือ จำนวน Device ที่อยู่ภายใต้ Group
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Group แบบหลายค่า
tags
: Json คือ แท็กของ Group ในรูปแบบ Key Value
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล Group ดังรูปด้านล่าง
GroupList¶
สำหรับเข้าถึงรายการข้อมูล Group ตามตัวกรองประเภทต่างๆ รายละเอียดดังนี้
groupList ( fliter, orderBy, direction, limit, offset ):
Arguments
fliter
: GroupFilterKey คือ Object Type ของตัวกรองที่ใช้ระบุในการค้นหา ประกอบด้วย
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Group อยู่ภายใต้ (ต้องระบุ)
groupname
: String คือ ชื่อของ Group
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Group แบบหลายค่า
tags
: TagsInput คือ แท็กของ Group ในรูปแบบ Key Value
orderBy
: [GroupSortKey] คือ ตัวเลือกของฟิลด์ที่ระบุให้เป็นตัวเรียงลำดับข้อมูล ประกอบด้วย
groupname
(เรียงตามชื่อของ Group)
groupid
(เรียงตามรหัสของ Group)
createdtime
เรียงตามวันที่เวลาที่สร้าง Device
direction
: OrderDirection คือ ตัวเลือกของลักษณะการเรียงลำดับ ประกอบด้วย
ASC
(เรียงลำดับจากน้อยไปมาก)
DESC
(เรียงลำดับจากมากไปน้อย)
limit
: Int คือ จำกัดจำนวนข้อมูลที่จะดึงออกมา
offset
: Int คือ ลำดับรายการของข้อมูลที่เริ่มดึงข้อมูล
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [Group]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type Group ประกอบด้วย
groupid
: String คือ รหัสของ Group
groupname
: String คือ ชื่อของ Group
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Group อยู่ภายใต้
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Group
description
: String คือ คำอธิบาย Group
devicecount
: Int คือ จำนวน Device ที่อยู่ภายใต้ Group
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Group แบบหลายค่า
tags
: Json คือ แท็กของ Group ในรูปแบบ Key Value
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล Group ดังรูปด้านล่าง
Hook¶
สำหรับเข้าถึงรายการข้อมูล Event Hook ที่มีการสรา้งไว้ ตามตัวกรองที่กำหนด รายละเอียดดังนี้
hook ( projectid, hookid ):
Arguments
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Hook อยู่ภายใต้ (ต้องระบุ)
hookid
: String คือ รหัสของ Hook
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [Hook]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type Hook ประกอบด้วย
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ Group อยู่ภายใต้
name
: String คือ ชื่อของ Hook
hookid
: String คือ รหัสของ Hook
description
: String คือ คำอธิบาย Hook
type
: String คือ ประเภทของ Hook (ปัจจุบันมีแค่ 1 ประเภท คือ WEBHOOK ผู้ใช้จึงไม่ต้องเลือก)
enabled
: Boolean คือ สถานะการเปิดใช้งาน Hook (true
เปิดการใช้งาน [default],false
ปิดการใช้งาน)
param
: Json คือ ตัวแปรต่างๆ ที่ใช้ตั้งค่าเพื่อส่งไปยังเว็บปลายทาง
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
Membership¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลสมาชิกที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลในแต่ละ Project ตามระดับสิทธิ์ที่ได้รับ รายละเอียดดังนี้
membership ( projectid ):
Arguments
projectid
: String คือ รหัสของ Project (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [Membership]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type Membership ประกอบด้วย
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Membership
level
: String คือ ระดับสิทธิ์ของการเป็นสมาชิก มีทั้งหมด 5 ระดับ (ดูรายละเอียดสิทธิ์ได้ที่ Member)
5
(Owner)
4
(Master)
3
(Editor)
2
(Viewer)
1
(Guest)
projectid
: String คือ รหัสของ Project ที่ได้รับสิทธิ์
userid
: String คือ รหัสของผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์
username
: String คือ username ของผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
MyBillingAccount¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลรายการ Billing Account ทั้งหมดของผู้ใช้ที่เป็นเข้าของ User Token รายละเอียดดังนี้
MyBillingAccount ():
Arguments
ไม่มี ระบบจะตรวจสอบจาก User Token ว่าเป็นผู้ใช้รายไหน
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [BillingMembershipProfile]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type BillingMembershipProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
name
: String คือ ชื่อของ Billing Account
mode
: String คือ โหมดของ Billing Account
status
: String คือ สถานะการเปิดใช้งาน (ENABLED
หรือDISABLED
)
level
: Int คือ ระดับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลได้ มีทั้งหมด 3 ระดับ
3
(Owner)
2
(Master)
1
(Viewer)
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
Project¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Project ด้วย ID รายละเอียดดังนี้
project ( projectid ):
Arguments (ต้องระบุอย่างน้อย 1 ค่า)
projectid
: String คือ รหัสของ Project (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Project
ตอบกลับเป็น Object Type Project ประกอบด้วย
projectname
: String คือ ชื่อของ Project
projectid
: String คือ รหัสของ Project
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Project
description
: String คือ คำอธิบาย Project
tags
: JSON คือ แท็กของ Project ในรูปแบบ Key Value
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Project แบบหลายค่า
numberdevice
: Int คือ จำนวน Device ภายใต้ Project
numbergroup
: Int คือ จำนวน Group ภายใต้ Project
numberdeviceonline
: Int คือ จำนวน Device ที่เชื่อมต่อ Platform อยู่ ณ ขณะนั้นภายใต้ Project
numberdeviceoffline
: Int c จำนวน Device ที่ไม่ได้เชื่อมต่อ Platform อยู่ ณ ขณะนั้นภายใต้ Project
quota
: Quota คือ สถานะของ Service แต่ละรายการที่มีโควต้าพร้อมใช้งาน ซึ่งประกอบด้วย
apicall
: Boolean คือ บริการ REST API (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
connection
: Boolean คือ บริการเชื่อมต่อ Platform ของ Device (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
message
: Boolean คือ บริการ Real Time Message ผ่าน MQTT Protocol (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
shadowops
: Boolean คือ บริการอ่าน/เขียน Shadow (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
store
: Boolean คือ บริการเก็บข้อมูลใน Time Series Data (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
trigger
: Boolean คือ บริการ Trigger & Action (Notification) (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
datasource
: Boolean คือ ผลรวมขนาด Byte ของข้อมูลที่มีการใช้บริการผ่านapicall
(true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
ProjectBillingAccountInfo¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Billing Account ของแต่ละ Project รายละเอียดดังนี้
ProjectBillingAccountInfo ( projectid ):
Arguments
projectid
: String คือ รหัสของ Project (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingAccountProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingAccountProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
name
: String คือ ชื่อของ Billing Account
mode
: String คือ โหมดของ Billing Account
allow_apicall
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน API Call (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_connection
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Device Online (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_datasource
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Datasource (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_message
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Real Time Message (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_shadowops
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Shadow Read/Write (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_store
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Time Series Data Store (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
allow_trigger
: Boolean คือ การอนุญาตใช้งาน Trigger & Action (true
ใช้งานได้,false
ใช้งานไม่ได้)
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล Project Billing ดังรูปด้านล่าง
ProjectBillingAccountSubscriptionProfile¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Package Subscription ปัจจุบันของแต่และ Project รายละเอียดดังนี้
- ProjectBillingAccountSubscriptionProfile ( projectid ):
Arguments
projectid
: String คือ รหัสของ Project (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingAccountSubscriptionProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingAccountSubscriptionProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
subscriptionname
: String คือ ชื่อของ Subscription
billtype
: String คือ ประเภทของ Billing (PREPAID
หรือPOSTPAID
)
status
: String คือ สถานะการเปิดใช้งาน (ENABLED
หรือDISABLED
)
packageid
: String คือ String คือ รหัสของ Package ใช้งาน
packagename
: String คือ ชื่อของ Package ใช้งาน
total_cycle
: Int คือ จำนวนรอบการใช้งานได้ทั้งหมด
current_cycle
: Int คือ จำนวนรอบที่ใช้งานไปแล้ว ณ ปัจจุบัน
subscription_start_at
: String คือ วันเวลาทรี่เริ่มต้นใช้งาน Subscription
current_cycle_start_at
: String คือ วันเวลาที่เริ่มรอบการใช้ปัจจุบัน
current_cycle_end_at
: String คือ วันเวลาที่สิ้นสุดรอบการใช้ปัจจุบัน
max_apicall
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน API Call ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_connection
: Float คือ จำนวนเวลาสะสมสูงสุดที่ Device Online ได้ ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น วินาที)
max_datasource
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Datasource ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Byte)
max_message
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Real Time Message ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Message)
max_shadowops
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Shadow Read/Write ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_store
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Time Series Data Store ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Point-Day)
max_trigger
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Trigger & Action ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_device_per_billing
: Int คือ จำนวน Device สูงสุดที่สามารถสร้างได้ในแต่ละ Billing Account
max_member_per_project
: Int คือ จำนวนสมาชิกสูงสุดที่สามารถ Invite ได้ในแต่ละ Project
max_project_per_billing
: Int คือ จำนวน Project สูงสุดที่สามารถสร้างได้ในแต่ละ Billing Account
note
: String คือ หมายเหตุ
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
ProjectBillingMetricUsageProfile¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน Service ต่าง ๆ ในรอบบิลปัจจุบันของแต่และ Project รายละเอียดดังนี้
ProjectBillingMetricUsageProfile ( projectid ):
Arguments
projectid
: String คือ รหัสของ Project (ต้องระบุ)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : BillingMetricUsageProfile
ตอบกลับเป็น Object Type BillingMetricUsageProfile ประกอบด้วย
billingaccountid
: String คือ รหัสของ Billing Account
name
: String คือ ชื่อของ Billing Account
mode
: String คือ โหมดของ Billing Account
max_apicall
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน API Call ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_connection
: Float คือ จำนวนเวลาสะสมสูงสุดที่ Device Online ได้ ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น วินาที)
max_datasource
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Datasource ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Byte)
max_message
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Real Time Message ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Message)
max_shadowops
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Shadow Read/Write ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
max_store
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Time Series Data Store ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Point-Day)
max_trigger
: Float คือ จำนวนโควต้าสะสมสูงสุดสำหรับใช้งาน Trigger & Action ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
use_apicall
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน API Call ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
use_connection
: Float คือ จำนวนเวลาที่ Device Online ไปแล้ว ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น วินาที)
use_datasource
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Datasource ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Byte)
use_message
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Real Time Message ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Message)
use_shadowops
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Shadow Read/Write ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
use_store
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Time Series Data Store ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Point-Day)
use_trigger
: Float คือ จำนวนโควต้าที่ใช้งานไปแล้วในส่วน Trigger & Action ของรอบบิลปัจจุบัน (หน่วยเป็น Operation)
usage_begin_at
: String คือ วันเวลาที่รอบบิลเริ่มนับการใช้งาน
usage_update_at
: String คือ วันเวลาที่มีการอัพเดทข้อมูลล่าสุด
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
ProjectList¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Project ด้วย ID รายละเอียดดังนี้
projectList ( fliter, orderBy, direction, limit, offset ):
Arguments
fliter
: ProjectPFilterKey คือ Object Type ของตัวกรองที่ใช้ระบุในการค้นหา ประกอบด้วย
projectname
: String คือ ชื่อของ Project
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Project แบบหลายค่า
tags
: JSON คือ แท็กของ Project ในรูปแบบ Key Value
orderBy
: [ProjectSortKey] คือ ตัวเลือกของฟิลด์ที่ระบุให้เป็นตัวเรียงลำดับข้อมูล ประกอบด้วย
projectid
(เรียงตามรหัสของ Project)
projectname
(เรียงตามชื่อของ Project)
createdtime
เรียงตามวันที่เวลาที่สร้าง Project
direction
: OrderDirection คือ ตัวเลือกของลักษณะการเรียงลำดับ ประกอบด้วย
ASC
(เรียงลำดับจากน้อยไปมาก)
DESC
(เรียงลำดับจากมากไปน้อย)
limit
: Int คือ จำกัดจำนวนข้อมูลที่จะดึงออกมา
offset
: Int คือ ลำดับรายการของข้อมูลที่เริ่มดึงข้อมูล
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : [Project]
ตอบกลับเป็น Array ของ Object Type Project ประกอบด้วย
projectname
: String คือ ชื่อของ Project
projectid
: String คือ รหัสของ Project
description
: String คือ คำอธิบาย Project
userlevel
: String คือ ระดับสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล Project
createdtime
: Timestamp คือ วันเวลาที่สร้าง Project
tags
: Json คือ แท็กของ Project ในรูปแบบ Key Value
hashtag
: [String] คือ แท็กของ Project แบบหลายค่า
numberdevice
: Int คือ จำนวน Device ภายใต้ Project
numbergroup
: Int คือ จำนวน Group ภายใต้ Project
numberdeviceonline
: Int คือ จำนวน Device ที่เชื่อมต่อ Platform อยู่ ณ ขณะนั้นภายใต้ Project
numberdeviceoffline
: Int c จำนวน Device ที่ไม่ได้เชื่อมต่อ Platform อยู่ ณ ขณะนั้นภายใต้ Project
quota
: Quota คือ สถานะของ Service แต่ละรายการที่มีโควต้าพร้อมใช้งาน ซึ่งประกอบด้วย
apicall
: Boolean คือ บริการ REST API (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
connection
: Boolean คือ บริการเชื่อมต่อ Platform ของ Device (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
message
: Boolean คือ บริการ Real Time Message ผ่าน MQTT Protocol (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
shadowops
: Boolean คือ บริการอ่าน/เขียน Shadow (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
store
: Boolean คือ บริการเก็บข้อมูลใน Time Series Data (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
trigger
: Boolean คือ บริการ Trigger & Action (Notification) (true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
datasource
: Boolean คือ ผลรวมขนาด Byte ของข้อมูลที่มีการใช้บริการผ่านapicall
(true
มีโควต้าพร้อมใช้งาน,false
ใช้งานไม่ได้หรือไม่มีโควต้า)
ตัวอย่างการเข้าถึงรายกาารข้อมูล Project ดังรูปด้านล่าง
Schema¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Shadow Schema ของ Device รายละเอียดดังนี้
schema ( deviceid ):
Arguments
deviceid
: String คือ รหัสของ Device (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Schema
ตอบกลับเป็น Object Type Schema ประกอบด้วย
deviceid
: String คือ รหัสของ Device
value
: JSON คือ Shadow Schema ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบ JSON
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล Shadow Schema ของ Device ดังรูปด้านล่าง
Shadow¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Shadow ของ Device รายละเอียดดังนี้
shadow ( deviceid ):
Arguments
deviceid
: String คือ รหัสของ Device (ต้องระบุค่า)
command
: Command คือ Object Type Command ประกอบด้วยระบุ
value
: String คือ โครงสร้าง Shadow ที่ต้องการเข้าถึงค่า (กรณีที่ต้องการข้อมูลบางส่วนใน Shadow)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Shadow
ตอบกลับเป็น Object Type Shadow ประกอบด้วย
deviceid
: String คือ รหัสของ Device
data
: JSON คือ Shadow ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบ JSON
rev
: Int คือ เลขที่ Revision
modified
: Timestamp คือ วันเวลาที่มีการแก้ไขข้อมูลล่าสุด
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล Shadow ของ Device จะได้ Shadow มาทั้งหมด ดังรูปด้านล่าง
Trigger¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล Trigger ของ Device รายละเอียดดังนี้
trigger ( deviceid, triggerid, type ):
Arguments
deviceid
: String คือ รหัสของ Device (ต้องระบุค่า)
triggerid
: String คือ รหัสของ Trigger
type
: String คือ ประเภท Trigger (DEVICE
,SHADOW
)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Trigger
ตอบกลับเป็น Object Type Trigger ประกอบด้วย
triggerid
: String คือ รหัสของ Trigger
triggername
: String คือ ชื่อของ Trigger
type
: String คือ ประเภท Trigger (DEVICE
,SHADOW
)
event
: String คือ ประของเหตุการณ์ที่เกิด Trigger (STATUSCHANGED
คู่กับ Trigger ประเภทDEVICE
,UPDATED
คู่กับ Trigger ประเภทSHADOW
)
condition
: String คือ เงื่อนไขการเกิด Trigger
action
: String คือ Event Hook ที่จะรับไปดำเนินการต่อเมื่อเกิด Trigger
context
: [ActionVarType] คือ ตัวแปร Key-Value ที่จะส่งค่าไปใช้งานต่อที่ Event Hook
enabled
: Boolean คือ สถานะการเปิดใช้งาน (true
เปิดใช้งาน,false
ปิดใช้งาน)
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง
UserByUserID¶
สำหรับเข้าถึงข้อมูล User ด้วย ID รายละเอียดดังนี้
:userByUserID ( userid ):
Arguments
userid
: String คือ รหัสของ User (ต้องระบุค่า)
Query Variables
Authorization
: User Token
Response Type : Trigger
ตอบกลับเป็น Object Type Trigger ประกอบด้วย
username
: String คือ ชื่อผู้ใช้
enail
: String คือ อีเมลผู้ใช้
profile
: Profile คือ Object Type Profile ประกอบด้วย
fullname
: String คือ ชื่อ-นามสกุล
phonenumber
: String คือ หมายเลขโทรศัพท์
organization
: String คือ ชื่อหน่วยงาน/องค์กร/บริษัท ที่สังกัด
created
: String คือ วันเวลาที่ลงทะเบียน
userid
: String คือ รหัสของ User
option
: Option คือ ประเภท User (oneid
ID จากระบบ OneID)
ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูล ดังรูปด้านล่าง